ความประทับใจนักศึกษา-นราเศรษฐ์ อนันต์ปัญญาพร

  • by

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

         ผม…กัลฯนราเศรษฐ์ อนันต์ปัญญาพร ผมเป็นว่าที่บัณฑิตใหม่ที่กำลังจะเข้าพิธีประสาทปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยธรรมกาย แคลิฟอร์เนีย (DOU) ในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2554 ครับ ในการรับปริญญาครั้งนี้ผมได้พาภรรยา คือ กัลฯสุภัสสรณ์ อนันต์ปัญญาพร และน้องสาวของผม กัลฯเขมจิรา ยอดระบำ มากันเป็นครอบครัวธรรมกาย เรียงแถวมารับปริญญา DOU โดยพร้อมเพรียงกันเลยครับ


(จากซ้าย) กัลฯเขมจิรา ยอดระบำ, กัลฯนราเศรษฐ์ และ กัลฯสุภัสสรณ์ อนันต์ปัญญาพร

         หลวงพ่อครับ ในช่วงที่ผมอายุ 11 ปี ผมได้ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ทำให้ผมประทับใจและซาบซึ้งในพุทธประวัติเป็นอย่างมาก จนมีความปรารถนาในใจลึกๆว่า “เราอยากจะเป็นให้ได้อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” สมัยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ผมก็มักจะสงสัยเรื่องการเกิดการตายของคนว่า “คนเราเกิดมาแล้วทำไมต้องตายด้วย, ตายแล้วไปไหน, แล้วก่อนจะมาเกิด เรามาจากไหน” ทำให้ผมสนใจที่จะศึกษาธรรมะ และเรียนจนจบนักธรรมเอก, จบ ปธ.2 และจบพุทธศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือ มมร. ซึ่งทำให้ผมรู้และเข้าใจคุณค่าของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นครับ

         ผมเคยมาวัดพระธรรมกายครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2534 แต่ก็ไม่ได้มาอีก จนกระทั่งปี พ.ศ.2549 จึงได้มาสร้างบุญกับวัดพระธรรมกายอย่างจริงจัง โดยการฟังธรรมะจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาครับ กลางปี พ.ศ.2551 มีการรับปริญญา DOU รุ่นแรก และกำลังมีการรับสมัครนักศึกษาใหม่ สามารถเรียนทางไกลได้ ผมรู้สึกสนใจอยากจะเรียน DOU เป็นอย่างมาก และด้วยความรักเรียน ใฝ่รู้ แม้ผมจะเคยเรียนทางพระพุทธศาสนามาแล้ว แต่ผมก็คิดว่าการเรียน DOU จะเป็นการเสริมความรู้ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จึงมิได้ใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิตจาก มมร. ใช้เพียงวุฒิ ปวส. สมัครเรียน DOU และยังได้ชวนคุณสุภัสสรณ์ อนันต์ปัญญาพร (ภรรยา) มาเรียนด้วย โดยผมจะเป็นกัลยาณมิตรคอยอธิบายธรรมะจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาให้เธอได้เข้าใจเสมอๆ อีกทั้งผมได้ชวนคุณเขมจิรา ยอดระบำ น้องสาวของผม ซึ่งปัจจุบันเธอรับบุญเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ให้มาสมัครเรียน DOU ด้วยกัน เพื่อว่าอย่างน้อยเมื่อเธอทั้งสองเข้าใจพระพุทธศาสนามากขึ้น ก็จะได้ช่วยงานหลวงพ่อได้มากขึ้น สามารถเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีให้กับชาวโลกได้ด้วยครับ


“พวกเราของติดตาม-ตามติดพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไปจนถึงทึ่สุดแห่งธรรม”

         ผมคิดว่าการเรียนทางโลกเพียงอย่างเดียว ทำให้ความสมดุลของชีวิตเสียไป เพราะเป็นการเรียนวิชาการเทคนิค วิธีการหาเลี้ยงชีพครองตน เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัย เรียนเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปรากฏว่า

บางอย่างยิ่งเรียนก็ยิ่งเกิดความเสื่อม ทั้งทางด้านจิตใจและสังคม สภาพแวดล้อมขาดสมดุล มีปัญหา กิเลส, ความโลภ, ความโกรธ, ความหลง เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้คนหลงอยู่ในโลกและอบายภูมิเป็นส่วนใหญ่

ผมจึงดีใจมากที่ได้เรียน DOU เพราะได้ ตอกย้ำซ้ำเติมสัมมาทิฐิของตนเอง สร้างความเข้าใจ ความมั่นคง ทำให้มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนทั้ง 3 ระดับ ได้ปฏิบัติตามหลักธรรม เป็นการปรับสมดุลของชีวิต ทำให้เราสามารถดำรงตนอย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกว่า

การศึกษาพุทธศาสตร์บัณฑิต DOU มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี่คือวิชาชีวิตที่แท้จริง ผู้ใดได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธ จำเป็นต้องเรียนรู้ และควรจะเรียนรู้ ก่อนที่จะเรียนวิชาการเลี้ยงชีพทั้งปวงครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
กัลฯนราเศรษฐ์ อนันต์ปัญญาพร

[line]

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *