ม่อจื้อดูการย้อมผ้า

  • by

ม่อจื้อดูการย้อมผ้า

ม่อจื้อเป็นนักปราชญ์คนหนึ่ง ในสมัยสงคราม 7 แคว้นของจีน มีอยู่คราวหนึ่ง เขาพาลูกศิษย์เดินผ่านโรงงานย้อมผ้าแห่งหนึ่ง และก็หยุดยืนดูการย้อมผ้าอยู่หน้าประตูโรงงาน

พวกเขาเห็นคนงานนำเอาผ้าไหมที่ขาวราวปุยหิมะจำนวนมากแช่ลงในถังย้อมทีละมัด ๆ ชั่วครู่เดียวผ้าไหมเหล่านั้นก็ย้อมติดเป็นสีต่างๆ ที่ใส่ลงในถังย้อมสีน้ำเงินก็กลายเป็นสีน้ำเงิน ที่ใส่ลงในถังย้อมสีเหลืองก็ถูกย้อมกลายเป็นสีเหลือง

ม่อจื้อดูคนงานเหล่านั้นย้อมผ้าอยู่อย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่บนใบหน้ากลับแสดงความรู้สึกอย่างมากมาย และแล้วเขาก็ถอนหายใจยาว พูดรำพึงกับตัวเองว่า “ช่างเป็นหม้อย้อมอันร้ายกาจอะไรเช่นนี้”

ลูกศิษย์ถามม่อจื้อว่า
“อาจารย์ ท่านอาจารย์พูดอย่างนี้มีความหมายอย่างไรหรือครับ”

ม่อจื้อตอบว่า
“พวกเธอดูผ้าไหมที่ขาวบริสุทธิ์เหล่านั้น พอใส่ลงในหม้อย้อม ก็เปลี่ยนสีไปทันที ที่อยู่ในถังสีเหลืองก็กลายเป็นสีเหลือง ที่อยู่ในถังสีดำก็กลายเป็นสีดำ ไม่อาจฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้อีก คนเราก็เช่นเดียวกัน เด็กเล็กทั้งหลายต่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เหมือนผ้าไหมที่ขาวราวหิมะ แต่พอเข้าสู่สังคม สัมผัสกับบุคคลอื่นตั้งแต่ในครอบครัวจนถึงสังคมภายนอก ก็จะรับอิทธิพลจากคนรอบข้างได้อย่างง่ายดาย ที่อยู่กับคนดีก็กลายเป็นคนดี ที่อยู่กับคนเลวก็กลายเป็นคนเลวไปด้วย อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อคนเราช่างมากจริง ๆ”

ลูกศิษย์ของม่อจื้อบอกว่า
“ท่านอาจารย์พูดถูกจริง ๆ ยุวชนคนหนุ่มสาวทั้งหลายควรจะต้องมีความสุขุมรอบคอบระมัดระวังในการคบหาสมาคมให้มาก ๆ ”

ท่านสาธุชนทั้งหลาย…

ในการคบคน เราจำเป็นต้องเลือกคบ และวิธีการเลือกไม่ใช่เลือกตามความชอบใจ ใครมาเอาอกเอาใจ ทำถูกใจ เราก็ชอบคนนั้น คบคนนั้น แต่มีหลักง่าย ๆ อยู่ว่า ใครที่เราอยู่ใกล้เขา คบเขาแล้วทำให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงในตัวเราเพิ่มมากขึ้น เช่น ทำให้อยากได้ทรัพย์มากในทางไม่ถูกต้อง คอยยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้เราโกรธเกลียดระแวงคนอื่น ๆ หรือคอยชักชวนให้เราลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข คนอย่างนี้เรียกว่าคนพาล ไม่ควรคบ ควรหลีกให้ไกล ๆ แต่คนไหนคบแล้วทำให้เราอยากทำความดี ให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิภาวนา คนอย่างนี้เรียกว่าบัณฑิต ควรคบ

และที่ต้องระวังอย่างยิ่งก็คือ ระวังไม่ให้ตัวของเราเองกลายเป็นคนพาลเราต้องฝึกตัวให้เป็นคนคิดเป็น (มีโยนิโสมนสิการ) ตรวจสอบตัวเองง่าย ๆ ว่าคิดเป็นหรือไม่ คือ ถ้าอยากได้อะไร ยิ่งคิดยิ่งโลภยิ่งอยากได้ หรือกำลังโกรธใคร พอยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธแค้น กำลังหลงยิ่งคิดยิ่งหลงมัวเมา แสดงว่าคิดไม่เป็น คนคิดเป็นยิ่งคิดความโลภก็ลดลง ความโกรธคลายสบายใจ ความลุ่มหลงมัวเมาก็เบาบาง ยิ่งคิดก็ยิ่งมีใจที่ปลอดโปรง ใครรู้จักเลือกคบคน และฝึกตัวเองให้คิดเป็น ชีวิตจะมีความสุข เจริญรุ่งเรือง ทั้งภพนี้ตลอดภพหน้า

————————————————————————————————————————————-
ที่มา : หนังสือ “มังกรสอนใจ” โดย พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *