ความประทับใจนักศึกษา-สุดาวรรณ อัศวรังติคุณ

  • by

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

สุดาวรรณ

ภาพที่ 1 : สุดาวรรณ  อัศวรังติคุณ บัณฑิต DOU รุ่นที่ 2

ลูก สุดาวรรณ  อัศวรังติคุณ (หลานอาม่าเอ็งง้วยจู)  พุทธศาสตร์บัณฑิต DOU รุ่นที่ 2 เพิ่งรับปริญญาไปเมื่อวาน สด ๆ ร้อน ๆ  ขอกราบรายงานตัวเจ้าค่ะ เริ่มแรก ความตั้งใจเรียน DOU ของลูกมีเพียงเหตุผลเดียว คือ “อยากรับปริญญากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ” และวันนี้ ลูกได้บรรลุวัตถุประสงค์สมดังใจหมาย คือ ได้รับปริญญากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้วเจ้าค่ะ

ภาพบรรยากาศเมื่อวาน ลูกยังจดจำได้ดี  บัณฑิตทุกคนสวมชุดครุย อย่างสง่างาม รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า เมื่อริ้วขบวนเริ่มเข้าสู่ศูนย์กลางพิธี  เสียงปรบมือดังกึกก้องจากสาธุชนในสภาธรรมกายสากล  สายตาทุกคู่ที่มองมายังบัณฑิตด้วยความชื่นชม ความรู้สึกของลูกในตอนนั้น สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ .. รู้สึกปลื้มใจ.. ขนลุก.. ดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่กระมังที่เป็นผลแห่งความภาคภูมิใจของการสำเร็จการศึกษา
ทำให้นึกถึงโคลงบทหนึ่งที่ว่า

กล้วยไม้มีดอกช้า         ฉันใด

การศึกษาเป็นไป         เช่นนั้น

แต่มีดอกคราวไร         งามเด่น

งานสั่งสอนปลูกปั้น      เสร็จแล้ว  แสนงาม

(ม.ล.ปิ่น  มาลากุล ผู้ประพันธ์)

และแล้วช่วงเวลาสำคัญที่ลูกรอคอยก็มาถึง คือ การขึ้นรับปริญญากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในปีนี้ก็ไม่ซ้ำรูปแบบเดิม คือรับปริญญาพร้อมกัน 4 คน ต้องไหว้และรับพร้อม ๆ กัน  เหมือนหลวงพ่อจะให้นัยยะว่าลูก ๆ ต้องทำงานพร้อมเพรียงกันเป็นทีม นอกจากนี้ยังหมายถึง เราเก่งและดีคนเดียวไม่ได้ แต่ทุกอย่างต้องไปเป็นทีม ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอน

สุดาวรรณ

ภาพที่ 2 : วันนี้ที่รอคอย … บัณฑิต DOU

ถึงแม้จะรับพร้อมกัน 4 คน แต่หลวงพ่อก็มองบัณฑิตด้วยความชื่นชมได้ครบทุกคน  ลูกส่งยิ้มให้หลวงพ่อด้วย รู้สึกว่าตัวเองยิ้มค้างนานไปหน่อย จนตอนนี้ก็ยังปลื้มไม่หายการรับปริญญาดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กระชับ ฉับไว ไม่ยาวนานเหมือนการรับปริญญาข้างนอก บรรยากาศของงานจัดได้ยิ่งใหญ่ อลังการ น่าประทับใจจริง ๆ

เดิมทีลูกเรียน DOU เพราะอยากรับปริญญากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แต่พอได้เริ่มเรียนจริง ๆ จัง ๆ ก็พบว่าเนื้อหาน่าสนใจทุกวิชา และนำไปใช้งานได้จริง เช่น เมื่อลูกไปทำหน้าที่ชวนคนบวช ก็ใช้หลักการทำงานเป็นทีม ในทีมของลูกมี 3 คน ใจเป็นหนึ่งเดียว มุ่งไปสู่เป้าหมายตามโครงการที่หลวงพ่อตั้งใจ ว่าอย่างไรว่าตามกัน  สิ่งที่ลูกใช้มากคือ การเล่าเรื่อง “กฏแห่งกรรม” โดยเน้นที่ความสำคัญของ “ศีล” การบวชคือการมาฝึกตัว มารักษาศีล โดยเริ่มจากศีล 8  และก้าวไปสู่ศีล 227 ข้อเมื่อเป็นพระ  ลูกก็จะเน้นกับคนที่ลูกไปชวนว่า “ถ้าเราอยากได้พระแบบไหน ก็ให้เราฝึกตัวแบบนั้น” งานบวชพระที่ผ่านมา ลูกชวนคนมาบวชได้เกือบ 40 คน และอยู่จนครบโครงการ 25 คน งานนั้น ลูกถือผ้าไตรหลายผืนจนเอวเคล็ด ยกแขนไม่ขึ้นเลย เพราะไปเป็นผู้ปกครองให้ธรรมทายาทหลายคน

สุดาวรรณ

ภาพที่ 3 : เปิดบูธ เชิญชายไทยแมนแมน มาบวชแสนรูป

ลูกอยากรับบุญในทุก ๆ บุญ ขนาดลงทุนไปเรียนตัดผม  เพื่อมาช่วยตัดผมให้นาคธรรมทายาท ก่อนที่พระอาจารย์จะปลงผม

ในช่วงนี้ ลูกได้ทำหน้าที่ชวนคนมาบวชพระพี่เลี้ยง โดยใช้วิธีโทรศัพท์ตาม เพราะเรามีรายชื่อพระธรรมทายาทเก่าอยู่แล้ว บางคนก็เคยให้เบอร์โทรพ่อ-แม่ไว้ เพราะเขาเห็นเราเป็นเสมือนญาติ  ตอนนี้ลูกชวนคนมาบวชพระพี่เลี้ยงได้แล้ว 1 คน อีกหลายคนกำลังตัดสินใจ และกำลังทำหน้าที่ตลอดทุกวัน เพื่อให้ครบตามเป้า 3,000 คนให้ได้ค่ะ

หลวงพ่อคะ ปริญญาบัตรที่ลูกได้รับในวันนี้ เป็นปริญญาใบแรกในชีวิต  หลาย ๆ คนเคยพูดกับลูกไว้ว่า มาวัดแล้วได้อะไร … ที่ผ่านมา ลูกได้…บุญ เอาไปฝากเพื่อนบ้าน แต่เขาคงยังมองไม่เห็น แต่ในวันนี้ลูกอยากจะบอกทุกคนว่า มาวัดแล้ว…ได้ปริญญา นี่ไงหล่ะ.. เธอเห็นหรือยัง เรียนจบแล้ว ลูกกำลังคิดว่าจะสมัครเรียนต่อปริญญาโท อยากชวนเพื่อนบัณฑิตที่จบรุ่นเดียวกัน หรือคนที่จบปริญญาตรีแล้ว ทุกสาขา มาเรียนต่อปริญญาโทด้วยกันนะคะ จะได้เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันค่ะ

สุดาวรรณ

ภาพที่ 4 : ทีมงาน 3 คน… กับผลงานแห่งความสำเร็จในการชวนบวช

สุดท้ายนี้ ลูกอยากบอกว่า การได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อทุก ๆ วัน เปรียบเสมือนน้ำทิพย์มาชโลมใจ เห็นแล้วมีความสุข เกิดกำลังใจในการสร้างบารมี ขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญกับลูก ๆ ไปนาน ๆ นับพันปีนะคะ

กราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักอย่างสูงสุด

สุดาวรรณ  อัศวรังติคุณ

พุทธศาสตร์บัณฑิต DOU รุ่นที่ 2

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *