ความประทับใจนักศึกษา-สวาท ปรีอารมณ์

  • by

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

สวาท ปรีอารมณ์

ภาพที่ 1 : สวาท ปรีอารมณ์ บัณฑิต DOU รุ่นที่ 2

ลูกชื่อสวาท ปรีอารมณ์ หรือ “ผู้หญิงคนนี้ชื่อสวาท” ละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกที่โด่งดังมาแล้ว เจ้าของสกู๊ปชีวิต “ครอบครัวข้าวแกงยอดนักสร้างบารมี” ขอมาอัพเดทประวัติชีวิตตัวเองในด้านการเรียนเจ้าค่ะ ตอนนี้ลูกกำลังจะเป็นบัณฑิต DOU เข้ารับปริญญาในวันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ

ก่อนที่ลูกจะได้เรียน DOU ลูกคิดว่าตัวเองเป็นคนมีปมด้อย จิตใต้สำนึกลึกๆ บอกว่า เรามีความรู้น้อย ไม่มีความมั่นใจ แต่แล้ววันหนึ่ง วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของบัณฑิต DOU ก็มาถึง นั่นคือกัลฯ ศุภชัย ตันโสภณ ผู้ที่เป็นกัลยาณมิตรชวนลูกสร้างองค์พระ ได้เอาหนังสือจักรวาลวิทยามาให้ดู ตอนแรกลูกจะขอยืมอ่าน แต่พี่เขาแนะนำให้ลงทะเบียนเรียนเลย จะได้หนังสือกลับไปอ่าน อ่านแล้วต้องทดสอบความเข้าใจคือทำแบบฝึกหัด และข้อสอบ ลูกจึงไม่รอช้า ตัดสินใจสมัครเรียน DOU ทันที

พอได้เรียน DOU ลูกก็ชอบทุกวิชา โดยเฉพาะวิชา “ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา” ทำให้รู้ถึงความเป็นมาของพระพุทธศาสนา ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เป็นชาวพุทธ, วิชา “ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ทำให้รู้เส้นทางการสร้างบารมี และแนวทางปฏิบัติที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และวิชา “ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์” ซึ่งเป็นแบบอย่างให้ลูกศิษย์ในการสร้างบารมี เพื่อติดตามท่านไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม

จากการที่ได้เรียน DOU ลูกพบว่ามีประโยชน์มาก ๆ เป็นความรู้ที่ตัวเองค้นหามานาน ว่ามาตรฐานของคนดีมีอะไรบ้าง การเข้าสังคม กริยามารยาท การแต่งตัวกายที่ถูกกาละเทศะทำอย่างไร เพราะสำหรับตัวลูกเอง ไม่เคยมีคนสอนแบบนี้มาก่อน ยิ่งได้ทำแบบฝึกหัด DOU ด้วย ก็ยิ่งพบว่า สิ่งที่ตัวเองค้นหา อยู่ในหลักสูตร DOU นี้เอง …ลูกดีใจมากที่ได้เรียน (ขอบอก)

วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ บัณฑิตทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างคึกคักเบิกบาน สีหน้า แววตา และรอยยิ้ม ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้เป็นบัณฑิต DOU และสำหรับตัวลูกเอง ลูกคงไม่มีวันลืมวันแห่งความภูมิใจ วันแห่งความสำเร็จที่แม่ค้าขายข้าวแกงอย่างลูก ก็สามารถคว้าปริญญา พุทธศาสตร์บัณฑิต ของ DOU มาครอบครองได้ ตอนนี้ปมด้อยในใจของลูกหายไปแล้ว เปลี่ยนเป็นท่วมท้นไปด้วยความดีใจ ความภูมิใจมากๆ จนบรรยายเป็นตัวหนังสือไม่ได้ พอจบตรีปุ๊บ ลูกก็ไม่รีรอ รีบสมัครเรียนต่อปริญญาโททันที

สวาท ปรีอารมณ์

ภาพที่ 2 : ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และบันทึกลงในแบบฝึกหัดของ DOU

ในการเรียนปริญญาโท วันแรกไปฟังสัมมนา อาจารย์ก็บอกว่า นักศึกษาจะต้องฝึกวิจัย วิจารณ์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และอ่านตำราภาษาอังกฤษ ฟังดูยากจัง คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี เล่นก็ไม่เป็น แต่ลึก ๆ ในใจก็คิดว่า คนเราถ้าตั้งใจ ไม่มีวันที่จะล้มเหลวหรอก พอกลับมาลูกก็รีบไปเข้าร้านคอมพิวเตอร์ ซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ต 2 ชั่วโมง เข้าไปนั่งเล่น ไม่ได้เล่นเกมส์นะเจ้าคะ แต่ไปนั่งจับเม้าส์ คีย์บอร์ด ได้แค่นี้ แต่ก็รู้สึกมีความสุข ที่ได้พยายาม

จากนั้นลูกก็ค่อย ๆ ฝึกฝนภาษาอังกฤษ ภาษาบาลี ค่อย ๆ หัดแปลวิชาพุทธเถรวาท ปะติดปะต่อ จนเริ่มเข้าใจเรื่องราว ตอนแปลได้เรื่องแรก รู้สึกดีใจมาก ที่เราทำได้สำเร็จแล้ว และตอนนี้ลูกกำลังสนุกกับการค้นคว้าตำราอย่างไม่รู้เบื่อ

วันนี้ก็มีเพื่อนบัณฑิตหลายคนมาปรึกษา อยากเรียนต่อปริญญาโท แต่ไม่กล้าเรียน กลัวจะยาก หรือกลัวเรียนไม่ไหว ลูกขอบอกเลยว่า ขนาดลูกซึ่งค่อยรู้เรื่องอะไร ยังเรียนได้เลย ไม่มีอะไรที่ลูกพระธัมฯ ทำไม่ได้ ดังนั้น บัณฑิต DOU ทุก ๆ คน สามารถเรียนต่อปริญญาโทกันได้ทุกคนเลยค่ะ

ลูกอยากกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก ที่เมตตาลูกมาโดยตลอด ลูกคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนมดตัวเล็ก อยู่ในซอกมุมหนึ่งของโลก แต่หลวงพ่อยังมองเห็น เห็นคุณค่าของลูก เอาชีวิตของลูกไปสอนคนอื่น และที่ลูกซาบซึ้งใจเป็นที่สุด คือคำว่า “พ่อ” พ่อในทางธรรม ที่สอนให้รู้จักเอาตัวรอดจากภัยในวัฏฏะ เป็นแบบอย่างที่ดี มีทั้งความอดทน มีกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่ให้กำลังใจเสมอแม้ในยามที่ชีวิตอับเฉา มีธรรมะ และข้อคิดดีๆ สอนทาง DMC ทุกวัน….
สุดท้ายนี้ ขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรง อยู่คู่กับ DOUและโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน ไปสองร้อยซาวปี๋ นะคะ

กราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักอย่างสูงสุด
สวาท ปรีอารมณ์
พุทธศาสตร์บัณฑิต DOU รุ่นที่ 2

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *