ฮีโร่ 20 บาท

  • by

         คำถาม : “ถ้ามีเงิน 20 บาท.. คุณจะเอาไปทำยังไงให้เกิดคุณค่าสูงสุด?”

         คำตอบ : “……!!?!……”

         คงไม่ง่ายนักที่จะหาคำตอบมาเติมเต็มช่องว่างข้างบนให้โดนใจทุกคน   เพราะเงิน 20 บาทสมัยนี้จะซื้อก๋วยเตี๋ยวสักชามมากินยังไม่ค่อยจะได้เลย  แต่เมื่อวันก่อนผมเจอเด็กหนุ่มคนหนึ่งใช้เงิน 20 บาทซื้อ “ความเป็นฮีโร่..สุดเท่!” ไปต่อหน้าต่อตา

         เรื่องราวทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถตู้ประจำทางคันหนึ่งที่ผมบังเอิญได้นั่งไปด้วย

         พลบค่ำวันนั้น ผมขึ้นรถตู้ประจำทางจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังชานเมืองแห่งหนึ่ง  ปกติแล้วรถตู้สายนี้จะเก็บค่าโดยสารโดยให้ผู้โดยสารรวบรวมเงิน แล้วส่งต่อค่าโดยสารขึ้นมากันเองจากเบาะหลังสุดที่อยู่ท้ายรถ    และวันนั้นก็เช่นกัน หลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกจากอนุสาวรีย์ชัยฯไปแล้ว  เงินค่าโดยสารก็ค่อยๆ ถูกรวบรวมและถูกทยอยส่งขึ้นมาจากผู้โดยสารแถวหลัง    ผู้โดยสารทั้ง 15 ชีวิตค่อยๆ ส่งค่าโดยสารขึ้นมาจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งเรื่อยๆ ตามปกติ  โดยที่หาได้รู้เลยว่าเหตุการณ์ไม่ปกติชวนระทึกขวัญกำลังจะเกิดขึ้นในรถตู้คันนั้น

         ไม่กี่อึดใจ  เงินค่าโดยสารทั้งหมดก็ถูกรวบรวมส่งต่อขึ้นไปจนถึงมือคนขับ

         “เงินค่าโดยสารหายไป 20 บาท  ใครจ่ายไม่ครบครับ?” คนขับเอ่ยเสียงดังน่าตกใจ

         “……”  ผู้โดยสารเงียบกริบกันทั้งรถ  แต่ผมเดาว่าทุกคนคงร้องเสียงดังในใจเหมือนกันว่า “ฉันจ่ายครบนะ(โว้ย)!”   ตัวผมเองก็จ่ายครบนะครับ..จำได้ถึงขนาดว่าผมจ่ายแบงค์ยี่สิบกับเหรียญสิบไป

         “?!?!…?!?!” คนขับบ่นต่ออีกชุดใหญ่ด้วยน้ำเสียงอันดัง พยายามควานหาตัวคนที่จ่ายเงินไม่ครบ

         “……”  ผู้โดยสารยังคงเงียบกริบ จนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของคนข้างๆ

         มวลสารความเครียดอันหนักอึ้งกระจายไปทั่วทั้งรถทับหัว(ใจ)ผู้โดยสารทุกคน (ผมเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ ด้วยความอดทน)

         สุดท้าย คนขับตัดสินใจจะจอดรถลงมาเก็บเงินค่าโดยสารใหม่ด้วยตัวเอง ก็เลยส่งเงินค่าโดยสารเจ้าปัญหาก้อนนั้นกลับคืนมาให้ผู้โดยสาร   ซึ่งแน่นอนว่า ขณะที่เงินค่าโดยสารถูกส่งกลับมา และผู้โดยสารแต่ละคนค่อยๆ ดึงเงินของตัวเองกลับคืนไป   สุดท้ายแล้ว ผู้โดยสารเคราะห์ร้ายที่นั่งอยู่แถวหลังคนใดคนหนึ่งจะต้องได้รับเงินคืนขาดไป 20 บาท

         “เงินขาดไป 20 บาทคะ  แถวหลังส่งเงินขึ้นไปครบนะคะ!”  เพียงไม่กี่อึดใจ…(แต่กลับนานมากในความรู้สึกของผม) เสียงผู้โดยสารคนหนึ่งดังลอยขึ้นมาจากเบาะแถวหลังสุด  เสียงนั้นดังกึกก้องเต็ม 32 รูหูของคนในรถทุกคน  (ผมยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์ต่อไป อยากรู้นักว่ามันจะจบลงยังไง)

         “ผมไม่ทราบครับ แต่ผมต้องได้ค่าโดยสารครบ” เสียงคนขับดังสวนเสียงผู้โดยสารคนนั้นกลับมาอย่างรวดเร็วจากหน้ารถ ราวกับยอดนักเทนนิส 2 คนกำลังจะขับเคี่ยวลูกสักหลาดกันในสนามแข่งระดับโลก

         คนขับทำท่าจะจอดรถเพื่อ “เคลียร์” ปัญหาค่าโดยสารที่หายไป 20 บาท  (ผมเริ่มหาทางหนีทีไล่  จะกด 191 ดีไหมเนี่ย!!)

         แต่เดชะบุญ.. ก่อนที่จะมีการขึ้นตบหน้าเน็ตทำให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านั้น  ก็มีเด็กหนุ่มหน้าตาท่าทางดีที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างคนหนึ่งเสียสละช่วยออกเงิน 20 บาทที่เป็นตัวเจ้าปัญหานี้ให้คนขับไป? เอ๊ะ..หรือให้ผู้โดยสารทุกคน?  เอ๊ะ..หรือให้ใคร?   เอาเถอะครับ..ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เด็กหนุ่มคนนั้น ก็คือ ฮีโร่..สุดเท่ของทั้งคนขับและทั้งผู้โดยสารอีก 14 คนในรถตู้คันนั้นไปโดยปริยายด้วยเงินเพียง 20 บาท

         เอาล่ะ…ลองมาสมมุติเล่นๆ กันต่อสักนิด    ถ้าในเหตุการณ์เดียวกันนี้  ทุกคนในรถมัวแต่…

         ยึดหลักแบบผู้พิพากษา เราอาจจะได้ “ผู้ร้าย” มาหนึ่งคน

         หรือยึดหลักแบบตำรวจ เราอาจจะได้ “ผู้ต้องสงสัย” ทั้งคันรถ

         หรือยึดหลักแบบนักบัญชี เราอาจจะได้ “ผู้เคราะห์ร้าย” ทั้งคันรถที่ต้องช่วยกันเติมเงินที่ขาดไป

         แต่โชคดีที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งรู้จักคิดและแก้ปัญหาตามหลักพระพุทธศาสนาที่สอนให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์   สอนให้รู้ว่า “การเสียสละ” กับ “การเสียเปรียบ” นั้นแตกต่างกัน

         ในวันนั้น ทุกคนในรถจึงได้ “ฮีโร่..สุดเท่” มาหนึ่งคน…เย้ๆๆ

……….

         เช้าวันถัดมา ผมเอาเงิน 20 บาทของผม(ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระทึกข้างบนเลย เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องสั้นหักมุมแต่อย่างใด)ไปทำให้เกิดคุณค่าสูงสุดด้วยการทำบุญถวายภัตตาหาร   และแผ่บุญให้กับเด็กหนุ่มคนนั้นด้วย  เผื่อว่าในอนาคต ผมอาจจะได้มีโอกาสเป็นฮีโร่ 20 บาทกับเขาบ้าง

———————————————————————————————-
เรื่องโดย : Goat-writer

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *