Google & Ghost-writer

  • by

larry_sergey
“ผ่าสมองสองผู้ก่อตั้งกูเกิล (Inside Larry & Sergey’s Brain)”

“เป็นปลื้มกับ Google!”

          นั่นเป็นความประทับใจของผม! หลังจากที่ได้อ่านหนังสือแปลเรื่อง “ผ่าสมองสองผู้ก่อตั้งกูเกิล (Inside Larry & Sergey’s Brain)” จบลง

          ในยุคที่ Social Network กำลังมาแรง คงมีน้อยคนนักที่จะกล้าปฏิเสธความจริงที่ว่า ทุกๆ ย่างก้าวของกูเกิลในวันนี้กำลังเปลี่ยนแปลงโลกและพฤติกรรมของผู้คนบนโลกใบนี้ เริ่มตั้งแต่เสิร์จเอนจิ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไปจนกระทั่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์น้อยๆ ที่ถูกบรรจุอยู่ในโทรศัพท์มือถือของคุณ แต่วันนี้กูเกิลมองไปไกลพ้นกรอบของลูกโลกใบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เช่น

          Google Earth ที่นอกจากจะดูภูมิศาสตร์บนโลกแล้ว ยังมีฟังก์ชั่น Sky ที่สามารถสำรวจดูดาวนพเคราะห์และกาแล็กซี่อื่นๆ ได้อีกด้วย
          หรือโครงการสร้างภาพ Street View บนดวงจันทร์กับดาวอังคารในทำนองเดียวกับ Google Map เป็นต้น

          แต่ที่น่าทึ่งที่สุดน่าจะเป็น Project Virgle โครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งแรกบนดาวอังคาร ซึ่งเป็นแผนสำรองของมนุษยชาติในกรณีที่โลกของเรามีปัญหาเกิดขึ้น กูเกิลไม่ได้พูดเปล่าๆ ยังมีการวางแผนงานสำหรับโครงการนี้ไปข้างหน้าเป็นระยะเวลา 100 ปีด้วย

“เลิศหรูสุดๆ!!”

          หลังจากที่เอ่ยปากชื่นชมเขาเรียบร้อยแล้ว พวกเราชาวพุทธควรหันกลับมาชื่นชมตัวเองบ้าง เราควรยืดอกด้วยความภาคภูมิใจในคำสอนของพระพุทธองค์ เพราะพระพุทธศาสนาของเราสอนไปไกลกว่ากูเกิลซะอีก คือ สอนให้เรามองกว้างไปถึงอนันตจักรวาล และวางแผนสร้างบารมีไกลกันเป็นกัปเป็นอสงไขยปี

“ชักไม่ปลื้มกับ Google!”

          น่าเสียดายที่ความปลาบปลื้มของผมที่มีต่อกูเกิลต้องมาสะดุดลง เมื่อรุ่นพี่อาวุโสคนหนึ่ง (คนที่ดูแลเว็บไซต์นี้แหละ) มาไหว้วานให้ผมช่วยรับบุญเขียนบทความลงเว็บไซต์ เพราะกูเกิลจะให้เครดิตกับเว็บไซต์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ หรือมีข้อเขียนใหม่ๆ ที่ไม่ได้ไปลอกใครมา

          เป็นยังไงล่ะครับ! ทุกย่างก้าวของกูเกิลมีผลกระทบต่อผู้คนบนโลกใบนี้จริงๆ และตอนนี้มันก็ส่งผลกระทบมาถึงตัวผมแล้ว..แบบไม่ทันตั้งตัวด้วย¹

          ปกติผมเป็นคนขี้เกียจและมีงานประจำเยอะอยู่แล้ว แต่ก็ยังมิอาจหักหาญน้ำใจปฏิเสธคำไหว้วานของรุ่นพี่คนนี้ได้ ครั้นจะปฏิเสธไปตรงๆ ก็เกรงว่าโรคหัวใจของพี่ท่านจะกำเริบ หัวใจวายไป กลายเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล เดือดร้อนผมหนักเข้าไปอีก ผมจึงจำใจกัดฟันรับปากรับบุญชิ้นนี้มา

Ghost-writer

          เมื่อผมตกเป็น “แพะรับบุญ” ของพี่ท่านไปแล้ว ผมจึงต้องพยายามดิ้นรนหาทางเขียนบทความมาส่งให้ได้ (เพราะพี่ท่านขยันทวงงานบ่อยมาก) ในที่สุด ผมก็ต้องพยายามหาทางออกด้วยการควานหา “แพะ” ตัวต่อไป ตอนค่ำของวันนั้น ผมโทรศัพท์ไปไหว้วานให้เพื่อนสนิทที่มีฝีไม้ลายมือคนหนึ่งมาเป็น Ghost-writer ให้กับผม²  แต่อนิจจา..แม้ผมจะชักแม่น้ำทั้งห้า ภูเขาทั้งหก มหาสมุทรทั้งเจ็ดมาหว่านล้อมเขาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ!

          เมื่อแผน Ghost-writer ล้มเหลว ผมจึงต้องงัดเอาแผนสำรอง “Goo-write-เอง”(ก็ได้วะ)ขึ้นมาใช้ ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงต้องกลายมาเป็น Goat-writer คือ “นักเขียนแพะ(รับบุญ)” ไปพลางๆ จนกว่าคนอ่านจะเบื่อ หรือรุ่นพี่อาวุโสของผมจะหาแพะตัวต่อๆ ไปมาได้

          อันที่จริง Goat-writer ตัวนี้ยังอ่อนวัยวุฒิ ด้อยประสบการณ์ และอัตคัดลีลาน้ำหมึกอยู่อีกมาก คงไม่สามารถทำหน้าที่ “คอ-ลัม-นิสต์” ได้ดีนัก นอกจาก “ขอ-เล่า-นิด” “ขอ-เล่า-หน่อย” ไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่สติปัญญา ความสามารถ และเวลาจะอำนวย

          อนึ่ง ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตอนหน้าจะเอาอะไร “แบ๊ะ.. – แบ๊ะ..” ให้อ่านกัน

เรื่องโดย : Goat-writer

——————————————————————————————————————-

¹ ในขณะกำลังพิมพ์บทความชิ้นนี้ ผมได้เอาหนังสือ “ผ่าสมองสองผู้ก่อตั้งกูเกิล (Inside Larry & Sergey’s Brain)” มารองใต้โน้ตบุ๊คของผมตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อระบายความร้อน(ของโน้ตบุ๊ค ไม่ได้เป็นการระบายความร้อนใจของเจ้าของโน้ตบุ๊คแต่อย่างใด) ผมเชื่อว่าผู้อ่านคงจะเห็นใจและทำความเข้าใจได้ว่า มันเป็นเพียงหนทางเล็กๆ ของปัจเจกชนตัวน้อยๆ คนหนึ่งที่พยายามดิ้นรนขัดขืนกระแสการเปลี่ยนแปลงอันเชี่ยวกรากของกูเกิลที่กำลังส่งผลต่อโลกใบนี้
² Ghost-writer = “นักเขียนเงา” มักเป็นนักเขียนโนเนมแต่มีฝีมือดี ทำหน้าที่เขียนงานเพื่อตีพิมพ์ในนามของนักเขียนชื่อดังอีกที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *